ทริป...แกงส้มพังงา

สำหรับทริป “แกงส้มพังงา” เมื่อวันที่ 8-10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา พร้อมความประทับใจ อันล้นหลาม ซึ่งเรามีความเห็นตรงกันกับความประทับใจหลายๆอย่าง ไม่ว่า โรงแรมที่พักสุดประทับใจ กิจกรรมต่างๆ ที่ร่วมกันสร้างบรรยากาศเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ เติมเต็มพลังงานในโหมดผู้หญิง หรือในภาษาอังกฤษให้นิยามว่า “Healing and Nourishing our Feminine Energy” เพื่อนๆบางคนอาจจะไม่เข้าใจในโหมดนี้ บทความนี้จะมาเล่าเรื่องราว และเส้นทางในการเดินทางจากจังหวัดภูเก็ตไปจังหวัดพังงา เป็นการเดินทางที่ประจวบเหมาะของเพื่อนๆ รวมเป็น 4 สาว มาสร้างเรื่องราวร่วมกัน สร้างบรรยากาศร่วมกัน รับประทานอาหารร่วมกัน มาดื่มมาดริ๊งด้วยกัน และที่สำคัญมาแชร์ประสบการณ์ ใครมีพลังลบเราก็ส่งต่อพลังบวกให้เพื่อให้ชีวิตขับเคลื่อนด้วยกำลังที่เต็มเปี่ยม หลายคนยังแปลกใจว่าทริปแกงส้มพังงามาเกี่ยวข้องอะไรด้วย แกงส้มจะแทรกซึมในเรื่องราวสุดประทับใจจากการเดินทางของพวกเรา เพื่อนๆ จะได้รู้ว่ารสชาต แกงส้ม ที่จังหวัดพังงานั้น…เรื่องมีอยู่ว่า

สิบวันก่อนเดินทางหนุ่มเยอรมันเดินเข้ามาที่ออฟฟิศดิฉัน (Better Call Nika) เพื่อจะจองแทกซี่มารับที่บ้านพัก หาดป่าตอง ไปส่งที่สนามบินภูเก็ตในวันถัดไป เขาเข้ามาด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ด้วยสัญชาตญาณงานบริการของดิฉัน เลยถามว่า “คุณจะกลับแล้วเหรอ” “ใช่ ผมจะกลับแล้ว ผมมาจองแท็กซี่กับคุณ” เขาตอบ และเขาเสริมว่า “ผมพึ่งกลับมาจากเขาหลัก บรรยากาศดีมาก คนไม่เยอะ” จากนั้นเขาให้ดูรูปบรรยากาศโรงแรม ทันใดนั้นก็เปิดดูบรรยากาศโรงแรม ทางอโกด้า  (agoda) เพิ่มเติมทันที พร้อมอุทานว่า “ว๊าว น่าสนใจ” แล้วหันไปหาพี่รัก  (ผู้ร่วมเดินทางคนที่หนึ่ง พึ่งกลับมาจากสวิสเซอร์แลนด์ ได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว ยังปรับตัวกับเวลาที่ไทยอยู่) “ไปมั๊ยพี่” เป็นคำถามที่ทำให้ทริปนี้เกิดขึ้น และพี่รักก็ไม่รอช้า  “ไป ไปๆๆ” (คืออย่าช้า ไปคือไป ฮ่า ฮ่า)

จากนั้นการวางแผนทริปก็เกิดขึ้น คือผู้ร่วมเดินทางคนที่สอง พี่จุ๋ม และตามหาคนขับรถ พี่ทีน่า (พี่ทีน่ามีรถยนต์ คนขับที่น่ารัก ) ทริปนี้ไป 3 วัน 2 คืน อย่างที่เกริ่นไปก่อน ทริปนี้เป็นทริปที่เติมเต็มพลังงานในโหมดผู้หญิง ชุดกระโปรงพร้อม ชุดว่ายน้ำพร้อม บอกทุกคนจัดเต็ม บางคนเตรียมชุดออกกำลังกายไปด้วย บางคนเตรียมหนังสือไปอ่าน ชิล ๆๆ หน้าหาด ไม้เซลฟี่พร้อมมาก เตรียมชุดอาฟเตอร์นูนที  แก้วไวน์ และไวน์โรเซ่ (ไวน์รสชาต กลางๆ หวานๆระหว่าง ไวน์ขาว และไวน์แดง เพื่อนแนะนำเลยซื้อมาลองชิมกัน ในทริปนี้ค่ะ )

ล้อหมุนสิบโมงครึ่งจากภูเก็ต จุดหมายปลายทางคือ เขาหลัก จังหวัดพังงา พวกเราขับรถ ไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ไปถึงที่โน่นก็เที่ยงกว่าๆ นักท่องเที่ยวต่างชาติ เล่า ต่อๆ กันว่า บรรยากาศเงียบ ไปสัมผัสครั้งแรกแบบนอนค้างคืน ในตอนกลางวันนั้น บรรยากาศเงียบจริง หรือเป็นเพราะช่วงฤดูปลายฝน ถ้าที่นี่จะเรียก หน้าโลซีซัน  (Low Season) ส่วนมากเป็นต่างชาติ เราคนไทยอยากได้บรรยากาศเมืองนอก แต่ซัพพอร์ตคนไทยด้วยกัน และได้บรรยากาศอีกแบบ  ที่เขาหลักตอบโจทย์ให้ได้ค่ะ

ความหิว ในทริปแรกก็เริ่มต้นขึ้น  เราแวะกันที่ร้านอาหารแรก คือร้าน ออร์คิด เรสเตอรองค์ (Orchid Restaurant) มาที่เขาหลัก จังหวัดพังงา  แน่นอน หลายๆ คนต้องอยากลองชิมอาหารท้องถิ่น ทางร้านขึ้นป้ายมีชื่ออาหารแนะนำคือ  “แกงส้ม” และตามมาด้วยผัดสะตอกะปิกุ้ง ไข่เจียวปู  บางคนจะรู้กันว่า สั่งแกงส้ม ต้องมาคู่กับไข่เจียว   เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ ได้ลิ้มรสแกงส้มร้านแรก  ไม่เคยชิมรสชาต นี้ที่ไหนเลย แล้วรสชาตจัดจ้านมาก แกงส้มเป็นพระเอกของทุกเมนูบนโต๊ะ ความร้อนแรงของเครื่องปรุง ตราตรึงจนมาเมาท์กันในวงของเรา

เบรกเรื่องอาหาร ถึงเวลที่เราจะมาเช็คอินที่โรงแรมแล้วค่ะ โรงแรมที่เราพักอยู่ติดถนนหลัก ครั้งแรกที่เข้าไป การต้อนรับของพนักงานต้อนรับด้วยน้ำกระเจี๊ยบ และ ดอกไม้ทำเป็นช่อเล็กน่ารัก บรรยากาศแบบนี้เป็นการสร้างมูลค่าความประทับใจเล็กๆ หรือจะบอกว่า ความสุขเล็กๆ ที่เรียกว่า การต้อนรับอย่างอบอุ่น โรงแรมมีชื่อว่า โมราเซีย เขาหลัก  (Moracea KhaoLak) เป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของทริปนี้ เพราะเพื่อนชาวเยอรมัน แนะนำนั่นเอง

รีสอร์ท รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ  หาดส่วนตัว  ห้องพักมีทั้งแบบเป็นห้องพัก บังกะโล พูลวิลล่า  สี่สาวเราเลือก เป็นห้องพักธรรมดา  ทั่วพื้นที่รอบๆ มีสระว่ายน้ำ หลายสระ รถบริการรับส่งภายในโรงแรม เนื่องจากพื้นที่กว้าง  เมื่อเข้าในห้องพัก ห้องสวยงามในการออกแบบ ต้องมาสัมผัสเอง เป็นบรรยากาศที่ลงตัวมากๆ จากนั้นไม่รอช้า เปลี่ยนชุดไปว่ายน้ำ ความสุขที่ได้ว่ายน้ำ ผ่อนคลาย เสมือน ให้ร่างกายคืนสู่ธรรมชาติก็ว่าได้ หลังจากบังคับตัวเราทำงาน และทำงานตามเวลา แต่พอถึงเวลาให้สัมผัสธรรมชาติ เราจะผ่อนคลายร่างกายทันที  

วันแรกของอาหารค่ำ ขับรถวนหนึ่งรอบเพื่อมองหาร้านอาหาร ดูสิว่า  ค่ำคืนนี้ ร้านไหนลูกค้าเยอะ ร้านนั้นอร่อย และอาหารจะสด เราเลยได้แวะร้าน เขาหลักคันทรี (Khao Lak Country) ร้านอาหารร้านนี้ น่าจะเป็นร้านที่นักท่องเที่ยวเกือบเต็มร้านและมีนักร้อง บรรเลงเพลงไปด้วย เป็นบรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ค่ำคืนในเมืองเขาหลักนี้ เป็นเหมือนชุมชนหนึ่งที่ไม่เห็นนักท่องเที่ยวเอเชียเท่าไร เมื่อสี่สาวอย่างเราเข้าไปนั้น เหมือนเราเป็นนักท่องเที่ยว แล้วชาวต่างชาติเป็นคนพื้นที่ เอ๊ะ !! ยังงัยนะ !! เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบในวันถัดไป

ต่อกันด้วยค่ำคืนนี้กัน ผู้เขียนนั้นเป็น คนนำเรื่องของทริปที่ต้องการสร้างบรรยากาศที่ดีตามคอนเซ็ปต์ ของทริป วันแรกหลังอาหารค่ำ เราจะมาฉลองค่ำคืนอันแสนสุขด้วยการดื่มไวน์โรเซ่ (Rose wine)และเล่าเรื่องราวของกันและกันเพื่อแชร์ประสบการณ์ที่ดีให้กัน ใครกำลังเผชิญพลังลบ เราจะโอบกอบให้พลังงานบวก เพื่อปรับโหมด เข้าสู่คลื่นเดียวกันนั่นคือพลังงานบวก โดยเฉพาะพลังงานในโหมดผู้หญิงแสดงถึงความอ่อนโยนให้กันและกัน

เช้าของวันที่สอง เป็นอาหารเช้ามื้อแรก กับบรรยากาศ  อากาศดี แสงแดด ทะเลที่สวยงาม ห้องอาหารของโรงแรม  สไตล์แบบ เปิดโล่ง มีโต๊ะอาหารแบบติดริมทะเลด้วย และแบบในห้องอาหารที่เปิดโล่ง เพื่อนร่วมเดินทาง พี่ๆ ที่มาก่อนเลือกนั่งที่ห้องอาหาร เราตามมาทีหลัง ก้าวแรกที่มองในห้องอาหาร บรรยากาศรายล้อมไปด้วย ชาวต่างชาติ ทันใดนั้นเห็นโต๊ะเดียวที่เป็นเอเชีย ที่เหลือเป็นเยอรมันเกือบ 90 % ก็ว่าได้ (สอบถามกับพนักงานโรงแรม)  ฉันมองพวกเขา เขามองพวกฉัน คำนี้ใช้ได้ใน ณ เวลานั้น ฮ่า ฮ่า   อาหารมื้อเช้า ถือว่าผ่านค่ะ คอกาแฟต้องชอบที่นี่ แน่นอน เครื่องทำกาแฟ 3 เครื่อง พร้อมเสิร์ฟ

เป็นวันที่แสนพิเศษและได้พักผ่อนจริงๆ ค่ะ ช่วงบ่ายนัดกันว่าเราจะมานอนที่เก้าอี้ชายหาด พอมาถึงหน้าหาดเต็มทุกที่ แม้แต่ริมสระว่ายน้ำ สาวๆเลยเปลี่ยนแผนกันคือเรามากินของว่าง รองท้องกันก่อนเพราะบ่ายสองแล้ว นั่งกินพิซซ่า (อาหารเบา จริง นะคะ ฮ่า ฮ่า ถาดเล็ก ทานกันสามคนแน่ะ) นั่งแป๊บเดียว ฝนเท อีก! รีบมาหลบนั่งหน้าบาร์ ก็ได้บรรยากาศอีกแบบนึ’ตกไม่เกิน 30 นาที ฝนหยุด มองไปหน้าหาด เก้าอี้ชายหาดว่างค่ะ  ตรงสระว่ายน้ำก็ว่าง ฮ่า ฮ่า ฟ้าเป็นใจอะไรขนาดนั้น ก็คงได้เวลา ลงว่ายน้ำ ถ่ายรูปสวย ๆ ริมสระ รู้สึกดีไปอีกค่ะ

วันที่สองของทริปของพวกเรา ก็สร้างกิจกรรมเล็กๆที่เป็นส่วนหนึ่งในบรรยากาศของทริปค่ะ และทำให้รู้สึกดี ผ่อนคลาย ได้ร่วมวงพูดคุยกัน ช่วงบ่ายทานของว่าง กับ อาฟเตอร์นูนที (Afternoon Tea) ซึ่งผู้เขียนก็เตรียมชุดอาฟเตอร์นูนที มาเอง กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมทางตะวันตก โดยผู้เขียนมองในมุมมองของการฮีลใจ (Healing) หลีกจากการรีบเร่ง แต่เป็นเวลาที่ ให้รู้สึกผ่อนคลายตามประสาสาวๆ มาเมาท์กัน มากกว่า

19.30 น. เวลาเดิม ที่เราพร้อมเพรียงกัน ไปดื่มด่ำบรรยากาศอาหารค่ำ ที่เขาหลัก เราเปลี่ยนร้านอาหารอีก ชื่อร้าน ละม่วน ซีฟู๊ด หรือ ละมุน ซีฟู๊ด สะกดผิดต้องขออภัยค่ะ (Lamuan Seafood)     แน่นอนว่า เมนูที่เราต้องการลอง “แกงส้ม” อีกครั้ง ทริปนี้ต้องบอกว่า ใครชอบกินอะไร สั่งคนละเมนูแล้วเรามาแชร์อาหารร่วมกัน กินเสร็จประเมิน ฮ่า ฮ่า ที่ร้านนี้แกงส้มอยู่อีกฝั่งที่เรากินอาหารเที่ยงกันเมื่อวาน รสชาตเข้มข้นน้อย พี่รักคนใต้แท้ๆ ยังบอกว่า “ไม่รู้อ่ะ เพราะได้ทานแกงส้มที่รสชาตที่เด็ดกว่านี้” ในใจเรานั้น “อะไร นะ ยังมีอร่อยกว่านี้อีกเหรอ”แสดงว่าต้องมีสักที่ในพังงา ที่เรามีโอกาสหนึ่งวันถัดไป ให้ลิ้มลองสักที่!

เช้าของวันที่สาม อากาศดีมาก ขอทางโรงแรม เช็คเอาท์ บ่ายสอง เพื่อที่จะดื่มด่ำบรรยากาศ ล้อหมุนจากโรงแรมประมาณบ่ายสอง พนักงานต้อนรับ และพนักงานโรงแรมมีความเป็นกันเองมาก พวกเรารู้สึกประทับใจมาก มาพีคที่ทุกคนส่งกลับจนพวกเราขึ้นรถ ขากลับเราหาจุดเช็คอินกันค่ะ ที่แรก เป็นร้านอาหารชื่อ “เรือขุดแร่” หนึ่งในเพื่อนสมาชิกแนะนำ ต้องมาทานข้าวที่นี่ให้ได้ และอาหารที่เราสั่งรับประทานอีกครั้งคือ “แกงส้มยอดมะพร้าวอ่อน” ต้องบอกว่าแกงส้มที่นี่ละมุนมาก ที่สาว ๆ มีความคิดเห็นตรงกันว่า “ปิดจบสวยงาม”  เหมือนเป็นพระเอกมาปิดจบใน ทริปนี้เลยก็ว่าได้สำหรับ แกงส้ม ที่จังหวัดพังงา

ไหนๆ ก็มาแล้ว พี่จุ๋มเสนอ “มองหาคาเฟ่ ถ่ายรูปกัน” ทันใดนั้นพี่ทีน่าเสนอเป็น “บุญตา คาเฟ่” อยู่ติดหาด บรรยากาศที่ร้านชิวมาก เข้ากับบรรยากาศ อาฟเตอร์นูนที (Afternoon Tea) ผู้เขียนก็จัดเซ็ต สั่งชา ดอกไม้ เป็นกาใหญ่สำหรับ 4 ท่านพอดี ก็เซ็ตโต๊ะเอง มีเค้กด้วย ในร้านจะมีพี่คนไทยอีกคนนั่งทำงาน ก็อมยิ้มที่เห็นเราเซ็ตโต๊ะ แอบถ่ายเราด้วยนะ ฮ่า ฮ่า จบทริปอย่างสมบูรณ์ค่ะ ทุกคนประทับใจ

การไปพักผ่อน เป็นช่วงเวลาที่ให้ตัวเอง ร่างกาย และจิตใจ ได้ชาร์จพลังงานให้ตัวเองก็ว่าได้ ทริปของเรา ผู้เขียนเป็นคนต้นเรื่องโดยให้คอนเซ็ปว่า  Healing and Nourishing our Feminine Energy   สาวๆมาสร้างบรรยากาศดีดี ให้กัน ส่งต่อพลังงานบวกให้กัน สร้างกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน เขาหลัก จังหวัดพังงาเป็น สถานที่ ที่เงียบสงบนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่มาพักกันเป็นครอบครัว เป็นคู่รักโดยส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวไปพักผ่อนที่เขาหลัก เหมือนเราเป็นนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเป็นคนพื้นที่ ฮ่า ฮ่า โดยเฉพาะที่โรงแรมที่พวกเราพัก แทบไม่เจอนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย โดยส่วนใหญ่เป็น ชาวยุโรป ก็ได้บรรยากาศต่างประเทศ แต่ไม่ใช่ ที่นี่เขาหลัก จังหวัดพังงา ประเทศไทย

Writer : Better Call Nika

ร้านอาหารแนะนำ : Orchid Restaurant (ในโซนเขาหลัก)

ร้านอาหารแนะนำ : Khao Lak Restaurant (ในโซนเขาหลัก)

ร้านอาหารแนะนำ : Lamuan Seafood (ในโซนเขาหลัก)

ร้านอาหารแนะนำ : เรือขุดแร่ (ทางผ่านภูเก็ตไปเขาหลัก)

คาเฟ่ แนะนำ : บุญตาคาเฟ่

โรงแรมแนะนำ : Moracea Khao Lak Resort