ยอม (แลก) เปลี่ยนซึ่งกันและกัน (Willing (to change) to evolve with each other)
“การแลกเปลี่ยนเป็นเรื่องที่สืบทอดกันมาเนิ่นนานแล้ว อาจจะแลกเปลี่ยนโดยการซื้อขายด้วยเงินตรา หรือการแลกเปลี่ยนสิ่งของซึ่งกันและกัน ถ้าพูดถึงการแลกเปลี่ยนตอนที่ผู้เขียนยังเด็ก จำได้ว่าที่หมู่บ้านจะมีชาวบ้านต่างถิ่นเข้ามาแลกเปลี่ยนเอาข้าวมาแลกกับเกลือบ้าง หรือจะแลกกับข้าวโพดบ้าง ซึ่งจะพบเห็นบ่อยมาก ยุคสมัยเปลี่ยนไปการแลกเปลี่ยนสิ่งของก็มาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะแลกเปลี่ยนสิ่งของด้วยการจับของขวัญ เชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะเคยทำ ทุกปีใหม่ หรือเทศกาล ถ้ายุคสมัยนี้กับการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ที่เข้มข้นขึ้น เราจะยอมแลกเปลี่ยนกับเทคโนโลยีด้วยอารมณ์ความรู้สึก”
การแลกเปลี่ยนก็ยังคงมีอยู่แต่จะมาในรูปแบบต่างๆ ยุคสมัยนี้ เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเราอย่างรวดเร็วมาก บางทีเราแทบจะปรับตัวไม่ทันกัน เทคโนโลยีจะเข้ามาแก้ปัญหา เข้ามาเป็นทางเลือก เข้ามาอำนวยความสะดวกในชีวิต เมื่อคุณต้องการสิ่งเหล่านี้ คุณก็ต้องยอมแลกเช่นกัน การแลกที่เทคโนโลยีต้องการและเฝ้ามองคุณ คือ ความรู้สึกของคุณ โดยที่คุณได้แลกกับความพึงพอใจให้กับคุณ
"การแลกเปลี่ยนก็จะมาในลักษณะการสมัครสมาชิก การทดลองใช้ สิ่งที่ทางเทคโนโลยีได้คือ ฐานข้อมูลจากการที่คุณเข้าสมัครใช้ ในแพลทฟอร์ม(Platform)ต่างๆ และการแลกทางอ้อมที่คุณยอมแลกเปลี่ยนโดยไม่รู้ตัวและคุณอาจจะหลีกเลี่ยงได้ถ้าคุณรู้ว่าจุดประสงค์ของคุณคืออะไรในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ แต่อาจจะช้าถ้ามันกลายเป็นการแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนพฤติกรรมของคุณไปแล้ว"
ผู้เขียนได้แรงจูงใจที่เขียนบทความนี้จากหนังสือเล่มเดิมที่อ่าน คือ 21 Lessons for the 21st Century(21 บทเรียนสำหรับศตวรรษที่21) ผู้แต่ง: Yuval Noah Harari (ยูวัล โนอาห์ แฮรารี) หน้า 353 – 412 และกลั่นกรองมาเป็นไอเดียต่อยอดให้ผู้อ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ให้บทความนี้เป็นเสมือนวัตถุดิบที่ยังไม่ได้ปรุงแต่ง และมันจะถูกปรุงแต่งเมื่อบทความนี้ได้ไปต่อยอดไอเดียให้กับผู้อ่าน ขอให้ผู้อ่านลองเปิดใจอ่านด้วยความผ่อนคลาย ในสถานที่เงียบสงบจะได้อรรถรสมากขึ้น เพราะผู้อ่านจะได้จดจ่อกับการอ่านบทความนี้
“อัลกอริทึมกำลังเฝ้ามองคุณอยู่ทุกชั่วขณะ มันเฝ้ามองว่าคุณไปที่ไหน คุณซื้ออะไร คุณพบกับใคร ไม่ช้ามันจะเฝ้าดูคุณทุกย่างก้าว ทุกลมหายใจ ทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ พวกมันพึ่งพาบิ๊กเดต้าและการเรียนรู้ของเครื่องจักรเพื่อจะได้รู้จักคุณ มากขึ้นและมากขึ้น และทันทีที่อัลกอริทึมเหล่านี้รู้จักคุณมากกว่าที่คุณรู้จักตัวเอง มันจะสามารถควบคุมและจัดการคุณ โดยที่คุณทำอะไรไม่ได้มากนัก คุณจะอาศัยอยู่ในเมทริกซ์หรือในเดอะทรูแมนโชว์ สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องตามหลักเหตุผลธรรมดา ถ้าอัลกอริทึมเข้าใจคุณอย่างแท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นภายในตัวคุณ เข้าใจดียิ่งกว่าคุณเข้าใจตัวเอง อำนาจสั่งการก็จะเปลี่ยนไปอยู่ในมือมัน”
หน้า 355-แปล (21 Lessons for the 21st Centerry : 21บทเรียนสำหรับศตวรรษที่21)
อัลกอริทึม (Algorithm) อยากจะให้ความหมายสั้นๆ นะคะเป็นเสมือนการประมวลผลในการแก้ปัญหาหนึ่งให้ง่ายขึ้นในทางเทคโนโลยี เทคโนโลยีและอัลกอริทึม มองดูผิวเผินในการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ปกติทั่วไปตอบโจทย์มนุษย์เราไม่น้อย แต่ลึกลึกแล้วมันทรงพลังมากและเราซึมซับสิ่งเหล่านี้เข้ามาในชีวิตของพวกเราเรื่อยๆและความแนบเนียนของเทคโนโลยี 3 สิ่งต่อไปนี้ที่คุณยอมแลกเปลี่ยน เพื่อตอบสนองความต้องการและความรู้สึกของคุณ
-เรายอมแลกกับเวลาของตัวเองในแต่ละวัน
เวลาของทุกคนนั้นมีคุณค่า และเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ละวันคุณให้เวลากับตัวเองมากแค่ไหน เวลาที่คุณจะแลกเพื่อให้เวลากับการนอน คุณให้เวลากับการทำงานของคุณ คุณให้เวลากับเป้าหมาย คุณให้เวลากับคนรัก เพื่อน ครอบครัว หรือแม้กระทั่งเวลาที่คุณยอมแลกกับการให้ทางเลือกของคุณนั่นคือ เทคโนโลยี ที่ให้กับคุณ จะคอยอำนวยความสะดวกให้คุณไม่ว่าคุณอยากช้อปปิ้ง คุณอยากดูละคร คุณอยากฟังเพลง
คุณอยากติดต่อใครสักคน เทคโนโลยีตอบโจทย์ให้คุณรู้สึกพอใจและอยู่ในช่วงเวลานั้นให้มากที่สุด ในครั้งถัดไปเทคโนโลยีจะเข้าใจคุณมากขึ้น สิ่งที่เทคโนโลยีได้คือ อารมณ์ของคุณ คือความพึงพอใจ แต่พฤติกรรมเราเปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ ความรู้สึก การสื่อสาร ระหว่างกันลดลง เพราะเราให้เวลากับเทคโนโลยีมากกว่าและตอบโจทย์ที่ดีกว่าที่ต้องบอกว่า “ ดูเพลิน”
-เราแลกกับความสะดวกสบาย
ไม่มีใครปฏิเสธได้ที่อยากจะอยู่ในขอบเขตที่เรามีความรู้สึกว่า สบายใจ ปลอดภัย สะดวก และในขณะนั้นการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แม้เราจะคิดว่าขอบเขตนี้พอใจแล้ว แต่เทคโนโลยีก็จะเข้ามาเสนอความสะดวก ความสะบาย ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งเราแทบจะปฏิเสธไม่ได้
อย่างการสร้างแอพพลิเคชั่น ที่ทำให้คุณสามรถเปิดดูในโทรศัพท์ของคุณได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณมีความรู้สึกพึงพอใจ เราก็ยอมแลกคือยอมรับ (Accept) สิ่งที่เทคโนโลยีได้จากคุณความพึงพอใจนั่นคือความรู้สึกของคุณเป็นฐานข้อมูล และเทคโนโลยีในแอพพลิเคชั่นจะส่งข่าวสารข้อมูล มาให้คุณเรื่อยๆ โดยที่คุณปฏิเสธไม่ได้จริง
-เราแลกกับความรวดเร็ว
การบริการกับความรวดเร็วน่าจะเป็นเรื่องคู่กันที่เราทุกคนต้องการอยู่แล้ว ในโลกออนไลน์ก็ไม่ต่างกัน เมื่อคุณต้องการการบริการที่รวดเร็ว อย่างต้องการใช้อินเตอร์เน็ตที่แรงและเร็ว หรือจะต้องการการตอบกลับที่รวดเร็ว เทคโนโลยีก็สร้าง Chat Bot เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์เรา หลายธุรกิจได้ใช้ Chat Bot ในดารตอบคำถามเบื้องต้น เช่น ธนาคาร สายการบิน หรือการขายสินค้าต่างใช้เทคโนโลยีนี้เข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น
แต่บางครั้งคุณก็ปฏิเสธไม่ได้กับบทบาทของเทคโนโลยี คุณต้องแลกกับการตอบกลับที่รวดเร็ว คือสร้าง chatbot ในเบื้องต้นในการสนทนากับคุณ และดูเหมือนเทคโนโลยีกำลังจะสร้างความคุ้นเคยให้กับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นและมากขึ้น พฤติกรรมในความเคยชินก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา และเราไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้
เทคโนโลยีและระบบการทำงานของอัลกอริทึม จะชอบมากถ้าได้ตอบโจทย์ความต้องการ ความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความสบายใจ ของมนุษย์ ที่เสมือนเป็นอาหารจานโปรดของเขา แค่คุณส่งข้อมูลเข้าไป เทคโนโลยีจะส่งมอบคุณกลับในหลากหลายรูปแบบ เช่นการให้คำแนะนำ การให้ทางเลือก ต่างๆมากมาย จนคุณพอใจ แต่เทคโนโลยียังคงนำเสนอให้คุณเรื่อยๆ โดยไม่มีลิมิต สิ่งที่เสพนั้นอาจจะมีลิมิตของความพึงพอใจที่มนุษย์เรารับได้
แต่ถ้าเรารับมากเกินที่จะรับไหว อาจจะกลายเป็นสารพิษทางอารมณ์ของมนุษย์เรา ซึ่งมนุษย์เรามีความรู้สึกแต่เทคโนโลยีอยากเป็นเหมือนเรา เมื่อคุณเสพมากเกินที่ความรู้สึกรับได้ จะส่งผลต่ออารมณ์ของคุณที่คุณรับข้อเสนอต่างๆ จนความเป็นส่วนตัว ความเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่ถูกเทคโนโลยีพยายามสร้างพฤติกรรมของคุณจนกลายเป็นนิสัยในชีวิตประจำวัน เมื่อเป็นที่ยอมรับของสังคมมนุษย์โดยส่วนใหญ่เราอาจจะปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้าเราใช้เทคโนโลยีที่มากเกินไปจนลืมถามตัวเองว่าความรู้สึกของเรารับกับสิ่งที่เราป้อนหรือเสพเข้าไปมากน้อยแค่ไหนถึงเรียกว่าความสมดุลย์กับโลกในยุคปัจจุบัน
Writer : Better Call Nika
Comments