หากไม่เข้าใจพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) เราคงไม่รู้จักคำว่า”ความสำเร็จ”
If we didn’t understand Masculine Energy, we wouldn’t know the word “success”
การแสดงถึงอำนาจ การแข่งขัน การวางแผน การสร้างกฎเกณฑ์ การตั้งเป้าหมาย ความทะเยอทะยาน ต่างล้วนได้อิทธิพลจากพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ที่ขับเคลื่อนความคิดของเราให้ตัดสินใจ และลงมือทำ บางครั้งด้วยสถานการณ์ที่กดดันความรู้สึกที่เป็นเหตุให้คุณต้องคิด วิเคระห์ก่อนตัดสินใจล้วนได้รับอิทธิพลจากพลังงานนี้ พลังงานความเป็นเพศชาย จะมีลักษณะที่ตรงกันข้ามกับพลังงานความเป็นเพศหญิง(Feminine Energy) ซึ่งทั้งสองพลังงานจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เราต่างเผชิญกับสถานการณ์การที่แตกต่างกัน จึงขึ้นอยู่กับคุณว่าจะอนุญาตให้พลังงานนี้เข้ามาขับเคลื่อนความรู้สึกของคุณ มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้ว
ผู้เขียน อุทิศบทความนี้แด่คุณแม่ค่ะ ที่เป็นแรงบันดาลใจจากช่วงหนึ่งของชีวิตท่าน อยากจะถ่ายทอดผ่านตัวอักษร เพื่อต่อยอดให้ผู้อ่านเข้าถึงการทำงาน การขับเคลื่อนของพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ก่อนที่เราจะเข้าใจคนอื่น จงเข้าใจตัวเราเองก่อน เข้าใจธรรมชาติที่มอบสิ่งนี้มาให้เรา เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการขับเคลื่อนความรู้สึกของเรา คนที่ขับเคลื่อนก็คือตัวคุณ
ความแตกต่างระหว่างพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) และพลังานความเป็นเพศหญิง (Masculine Energy)
สังเกตธรรมชาติรอบตัวเรา มักมีสองด้านเสมอ อย่างพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ร่างกายตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ตกเย็นเราก็ต้องนอนเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนเหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งของกลไกธรรมชาติ เราเกิดมาบนโลกใบนี้วันหนึ่งของชีวิตเราก็ต้องดับไป พลังงานในตัวเราก็เช่นกันมีทั้งพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy)และพลังงานความเป็นเพศหญิง (Feminine Energy) สร้างขึ้นมาเพื่อให้ชีวิตของเราสมุดลนั่นเอง
พลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ได้อธิบายไปแล้วในอีกหนึ่งบทความ รวมทั้งพลังงานความเป็นเพศหญิง(Feminine Energy) สำหรับบทความนี้มาทำความรู้จักให้มากขึ้น รับรู้ถึงเส้นทางที่เราได้รับอิทธิพลจากพลังงานความเป็นเพศชาย ที่อยู่ในตัวคุณทั้งผู้ชายหรือผู้หญิง
พลังงานความเป็นเพศชายทำให้เราได้รู้จัก การคิด การวิเคราะห์ การตั้งเป้าหมาย เพื่อให้สำเร็จ หรือมองในอีกมุมมองหนึ่งคือความเป็นวิชาการ ระเบียบแบบแผน ความอยู่รอด สังเกตว่า
“ทำไมเราถึงมีพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) มากกว่าพลังงานความเป็นเพศหญิง(Feminine Energy) เรารับรู้พลังงานเหล่านี้ จากการเรียนรู้ ความอยากรู้อยากเห็น “
การปลูกฝัง (Cultivate)
สมัยวัยเด็ก ธรรมชาติของการเรียนรู้ได้รับมาจากผู้ที่ดูแลพวกเขาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่เลี้ยงเด็ก พี่น้อง ญาติๆของเรา เราซึมซับ ลอกเลียนแบบ และได้รับการบ่มเพาะ ให้เราพยายาม คือ พยายามนั่ง พยายาม เดินก้าว ที่ละก้าวที่ละก้าว พยายามลองผิดลองถูก อันไหนที่ทำให้เจ็บ ร้องไห้ ก็เริ่มคิด ทบทวน เพื่อที่จะไม่เจ็บอีกเมื่อเราเข้าสู่อีกวัยขึ้นไป การปลูกฝังที่ได้รับก็ขับเคลื่อนและยึดปฏิบัติ เพราะเรามองว่า สิ่งนี้เป็นที่ยอมรับของสังคมที่คุณดำรงอยู่ เราได้รับการปลูกฝังพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) อย่างเห็นได้ชัด
กรอบของสังคม (Boundary of Social)
สิ่งไหนที่กลุ่มสังคมยึดมั่นถือมั่น ในการปฏิบัติ โดยกลุ่มคนส่วนใหญ่ มองว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และยอมรับ กลายเป็นกรอบของสังคม สร้างกฏ ระเบียบแบบแผนเพื่อความเรียบร้อย เหล่านี้เป็นเสมือนพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) เราได้รับอิทธิพลจากสังคมของเราที่รวมตัวกันสร้างขึ้นมา ทุกยุคทุกสมัย สืบทอดกันมา
การแข่งขัน (Competition)
เมื่อมีการแข่งขันทำให้เราเกิดการวางแผน การคิดวิเคราะห์ ตั้งเป้าหมาย และมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อให้สัทฤทธิ์ผล การแข่งขันมีมาช้านาน เช่น การแข่งขันในวัยเรียน การสอบเพื่อให้ผ่าน การทำงานเพื่อเลื่อนขั้นในตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือจะเป็นการแข่งขันเพื่อพิสูจน์ถึงศักยภาพของตัวเอง ผลิตภัณฑ์ เราล้วนได้รับอิทธิพลจากพลังงานความเป็นเพศชายขับเคลื่อนความนึกคิดของเราเป็นส่วนใหญ่
ความอยู่รอด (Survival)
สถานการณ์ที่อยู่ในสภาวะที่เรียกได้ว่า สภาวะฉุกเฉิน สภาวะกดดัน สภาวะวิกฤติ นำมาซึ่งส่งผลให้เราเกิดการคิด ไตร่ตรอง กลั่นกรอง ก่อนที่จะตัดสินใจ และลงมือทำ สถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคน ขึ้นอยู่กับการดำรงชีวิตของแต่ละคน จากชีวิตประจำวัน การทำงาน ในกลุ่มสังคมของคุณ เราซึมซับจากสิ่งเหล่านี้ที่ล้วนเป็นพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) ขับเคลื่อน และหล่อเลี้ยงให้ตัวเราเองตลอด
ค่านิยม (Values)
สิ่งที่บุคคลพอใจหรือเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่า แล้วยอมรับไว้เป็นความเชื่อ หรือความรู้สึกนึกคิดของตนเอง ค่านิยมจะสิงอยู่ในตัวบุคคลในรูปของความเชื่อตลอดไป จนกว่าจะพบกับค่านิยมใหม่ ซึ่งตนพอใจกว่าก็จะยอมรับไว้ ค่านิยมทำให้เกืดสิ่งใหม่ เป็นที่ได้รับการขับเคลื่อนของพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy)เช่นกันเพื่อที่จะยกระดับจากค่านิยมเก่าให้ดีขึ้นและมีความพึงพอใจมากกว่าสิ่งเดิม ซึ่งเราต้องใช้การคิด วิเคราะห์และวางแผนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ผลที่ได้รับและประโยชน์ของพลังงานความเป็นเพศชาย (Masculine Energy) จากการซึมซับและหล่อเลี้ยงเรื่อยมาขับเคลื่อนให้คุณ ได้แสดงถึง
ความมั่นใจในตัวคุณ (Strong Self-confidence)
ปรับปรุงการคิดอย่างมีวิจารณญาณ(Improved critical thinking)
ประสิทธิภาพและกลยุทธ์ (Efficiency and strategy)
ความชัดเจนในจิตใจ (Mental clarity)
ความสมดุลทางอารมณ์(Emotional balance)
มีขอบเขตที่ดีต่อสุขภาพ(Healthy boundaries)
มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น (More self-assertiveness)
อำนาจจิตเป็นศูนย์กลาง (Centered Willpower)
มีวินัยในตนเอง (Self-discipline)
จะเห็นว่า สิ่งที่ธรรมชาติให้มาที่เรียกว่าพลังงานในตัวคุณ ที่ขับเคลื่อนความรู้สึกของคุณ คือ พลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy) และพลังงานความเป็นเพศหญิง (Feminine Energy) เป็นองค์ประกอบ เราทุกคนต่างมีพลังงานนี้เหมือนกัน เราได้รับการหล่อเลี้ยงจากแนวโน้มในการขับเคลื่อนพลังงานความเป็นเพศชายเกือบทุกช่วงชีวิต เป็นส่วนใหญ่ เราเห็นความสำเร็จของตัวเอง ความสำเร็จทางการศึกษา ความสำเร็จในหน้าที่การงาน เส้นทางแห่งความสำเร็จของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ระยะเวลาแห่งความสำเร็จก็แตกต่างกันเช่นกัน เราก็ต่างล้วนใช้พลังงานขับเคลื่อนพลังงานความเป็นเพศชาย(Masculine Energy)
ก่อนที่จะเริ่มมาเขียนบทความและเปิดเว็บไซต์นี้ ยังไม่รู้ซึ้งถึงพลังงานนี้ ก็เข้าใจเพียงแค่ว่า นี่คือสไตล์ของผู้นำ ที่จะให้ตัวเองประสบความสำเร็จ ช่วงชีวิตของผู้เขียนเรียนรู้พลังงานความเป็นเพศชาย มาจากคุณแม่ค่ะ ถูกปลูกฝังและเรียนรู้มากับท่านตลอด คุณพ่อท่านเสียชีวิตตอนที่ผู้เขียนยังเด็กมาก คุณแม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์วิกฤติของชีวิต ที่จำเป็นต้องแสดงทั้งหน้าที่ของความเป็นพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน กับลูกๆอีกสามคน แต่สถานการณ์นี้คุณแม่มีแต่บทบาทของคำว่าพ่อ หน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว เป้าหมายคุณแม่คือเห็นลูกทุกคนประสบความสำเร็จ เพราะสมัยนั้นการที่ประสบความสำเร็จมองว่า ต้องจบการศึกษาปริญญาตรี คุณแม่เริ่มทำงานหนัก ทำเกือบทุกอย่างเป็นรายได้ส่งลูกสามคนเรียนให้ได้เรียน มันไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ
ผู้เขียน : Better Call Nika
Opmerkingen